อาจเป็นรูปภาพของ หนึ่งคนขึ้นไป และ ข้อความพูดว่า "HUMAN/MMUNODEZ PAPILLOMAV/RUS โรคติดต่อ ทางเพศ สัมพันธ์ รู้จักไว้ ป้องกันได้' Speak OUT"

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted infections; STI) หมายถึงโรคที่ติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งโดยผ่านการมี เพศสัมพันธ์ บางโรคอาจติดต่อกันโดยการสัมผัสหรือถ่ายทอดสู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์ ได้แก่ ซิฟิลิส หนองใน แผลริมอ่อน เริมอวัยวะเพศ เป็นต้น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีอะไรบ้าง​

อาจเป็นการ์ตูนรูป ข้อความพูดว่า "MMUNODEFICIENCY HUMAN HUMAN/MMUNODEFICIENCY VIRUS เอชไอวี HIV ติดต่อผ่าน: อาการ: ที่สังเกตได้ ระยะแรก ระยะที่สอง ระยะสุดท้าย ไม่มีอาการ หรืออาการ ไม่ชัดเจน น้ำหนักลด น้ำหนักลด เจ็บป่วยได้ง่าย ระยะนี้รู้จักกันในชื่อ AIDS Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

เอชไอวี

โรคนี้มีอีกชื่อเรียกว่า ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เกิดจากเชื้อไวรัส Human Immunodeficiency Virus ที่สามารถส่งต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เอชไอวีมีระยะแสดงอาการแตกต่างกันทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่ ระยะไม่แสดงอาการที่อาจมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการอะไรเลย แต่กินเวลานานหลายปี หลายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อก็สามารถส่งต่อเชื้อในระยะนี้ ต่อมาคือระยะติดเชื้อฉวยโอกาสที่เชื้อจะเข้าไปอยู่ในต่อมน้ำเหลือง ทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง และระยะสุดท้ายก็คือระยะเอดส์นั่นเอง

อาจเป็นการ์ตูนรูป ‎ข้อความพูดว่า "‎ซิฟลิส SYPHILIS هففه TREPONEMA PALLIDUM อาการะ ที่สังเกตได้ ติดต่อผ่าน: แผลริมแข็ง ผื่นตุ่มนูนทั่วร่างกาย Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com‎"‎

ซิฟิลิส

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Treponema Pallidum ซึ่งอาศัยอยู่ได้ในทุกส่วนของร่างกาย เนื่องจากมีขนาดที่เล็กมากๆ แม้โรค ซิฟิลิส นี้อาจรู้สึกว่าไม่ได้ร้ายแรงหากเทียบกับโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ แต่มันก็ทำให้ผู้ป่วยเองรู้สึกได้ถึงความทรมานได้ไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งสถิติที่ผ่านมาระบุชัดเจนว่าเริ่มมีคนป่วยด้วยโรคดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดใช้คำว่าในเมืองไทยโรคซิฟิลิสกำลังระบาดอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องทำความรู้จักให้มากขึ้น

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "หนองในแท้ GONORRHOEA NEISSERIA GONORRHOEA อาการ: ที่สังเกตได้ ในเพศชาย ในเพศหญิง ติดต่อผ่าน: 1xx ปลายหนังหุ้ม อักเสบ อัณทะบวม ประจำเดือนมา ตกขาว ไม่ปกติ Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

หนองในแท้

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Neisseria gonorrhoeae อาการหนองในระหว่างผู้หญิงและผู้ชายจะต่างกันออกไป แต่สิ่งทีเหมือนกันอย่างแรกคือเชื้อจะเริ่มแสดงอาการหลังจากได้รับเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้บางคนอาจไม่ได้มีอาการอะไรเลย

อาจเป็นการ์ตูนรูป ข้อความพูดว่า "หนองในเทียม CHLAMYDIA CHLAMYDIA TRACHOMATIS อาการ: ที่สังเกตได้ ในเพศชาย ในเพศหญิง ติดต่อผ่าน: ปวดแสบตอน ปัสสาวะ ปวดท้องน้อย เลือดออก 'ขณะมีเพศสัมพันธ์' Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

หนองในเทียม

เกิดจากเชื้อโรคที่ชื่อว่า Chlamydia Trachomatis ได้ผ่านเข้าไปสู่ร่างกาย (เป็นเชื้อคนละตัวกับหนองในแท้) มักพบเจอได้บ่อยในกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาการของโรคจะไม่แสดงให้เห็น แต่สามารถแพร่กระจายไปติดกับผู้อื่นต่อได้หากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันอย่างถูกวิธี โดยทั่วไปแล้วหากเป็นหนองในเทียม อาการจะไม่หนักเท่ากับการเป็นหนองในแท้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ในการติดเชื้อและป่วยเป็นโรคนี้

อาจเป็นการ์ตูนรูป ข้อความพูดว่า "แผลริมอ่อน CHANGROID อาการ: ที่สังเกตได้ HAEMOPHILUS DUCREYI ติดต่อผ่าน: ตุ่บเล็กแดงขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

แผลริมอ่อน

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Haemophilus Ducreyi หากเกิดขึ้นกับใครก็ตามจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณอวัยวะเพศ มีอาการเปื่อย นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ โรคแผลริมอ่อน โดยอาการในแต่ละเพศจะมีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เกิดความทรมานกับร่างกายไม่ต่างกัน

อาจเป็นการ์ตูนรูป ข้อความพูดว่า "เริม HERPES HERPES SIMPLEX อาการะ ที่สังเกตได้ ติดต่อผ่าน: ตุ่มน้ำขึ้นบริเวณปาก อวัยวะเพศ Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

เริม

หรือ Herpes เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับหลายคน เมื่อเชื้อ โรคเริม ได้เข้าสู่ร่างกายแล้วจะอยู่กับคนๆ นั้นไปตลอดชีวิต โดยที่คนส่วนใหญ่เป็นกันจะเกิดจากเชื้อ 2 สายพันธุ์ คือ Herpes Simplex Virus ชนิด 1 หรือ HSV-1 กับ Herpes Simplex Virus ชนิด 2 หรือ HSV-2 จะบอกว่า โรคเริม นี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ไม่เชิง เพราะในความจริงคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อก็สามารถติดได้เช่นกัน ถือว่าเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย

อาจเป็นการ์ตูนรูป ข้อความ

หูดหงอนไก่

เกิดจากเชื้อที่เรียกว่า Human Papilloma Virus หรือ HPV ประกอบกับมีเชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุกว่า 150 สายพันธุ์ที่ถูกระบุเอาไว้เป็นตัวเลขทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นี้ ปกติแล้วเชื้อไวรัสตัวที่พบบ่อยสุดจะเป็น HPV 6 กับ HPV 11 

อาจเป็นการ์ตูนรูป หนึ่งคนขึ้นไป และ ข้อความพูดว่า "MOLLUSCUM CONTAGIOSUM หูดข้าวสุก WARTS ติดต่อผ่าน: อาการ: ที่สังเกตได้ ตุ่มเล็กแดงขึ้นทั่วร่างคาย Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

หูดข้าวสุก

เกิดจากเชื้อไวรัส Molluscum Contagiosum Virus (MCV) เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยทารกไปจนถึงผู้สูงอายุ ความอันตรายของหูดข้าวสุก คือ ในเด็กที่มีอายุ 1-10 ปี ที่ร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอ แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรงดีแล้ว จะช่วยกำจัดจนหูดข้าวสุก สามารถหายได้เองภายในระยะเวลา 1 ปี ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง จึงต้องระมัดระวังอย่าให้เด็กในความดูแลเกิดโรคหูดข้าวสุกจะเป็นเรื่องดีที่สุด

อาจเป็นรูปภาพของ ‎ข้อความพูดว่า "‎HEPATMIS B VIRUS HBV) ไวรัสตับอักเสบบี HEPATMIS B ติดต่อผ่าน: อาการ: ที่สังเกตได้ 10 وو อ่อนเพลียง่าย ตาเหลือง Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com‎"‎

ไวรัสตับอักเสบบี

คือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี (Hepatitis B: HBV) ซึ่งในทางการแพทย์ได้แบ่งชนิดของเชื้อไวรัสตับอักเสบไว้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นชนิด เอ บี ซี ดี อี โดยไวรัสชนิดบีนี้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอักเสบของเซลล์ตับ มีโอกาสที่จะเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง จนส่งผลให้เกิดพังผืด ตับแข็ง และลุกลามกลายเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "HEPATMIS ८ VIRUS (HCV) ไวรัสตับอักเสบซี HEPATTIS ८ ติดต่อผ่าน: อาการ: ที่สังเกตได้ ปวดท้องน้อย ตัวเหลือง Speak SPEAK OUT THAILAND OUT www.speakoutthailand.com"

ไวรัสตับอักเสบซี

(Hepatitis C Virus หรือ HCV) มีทั้งหมด 6 สายพันธุ์ หลักเรียกว่า genotype และสามารถแบ่งย่อยได้ดังนี้คือ 1a, 1b, 1c; 2a, 2b, 2c; 3a, 3b; 4a, 5a, และ 6a โดยที่เชื้อไวรัสตับอักเสบซีแต่ละ genotype จะกระจายตัวต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งชนิดที่พบมากในประเทศไทยคือ 1 และ 3 ส่งผลให้มีแนวทางในการรักษาผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีแต่ละชนิดต่างกัน เพื่อให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • รักษาความสะอาดของร่างกายและอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ในขั้นตอนของการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อชนิดใด ด้วยการซักประวัติและความเสี่ยงในการติดเชื้อ ร่วมกับการเจาะเลือด การเก็บปัสสาวะ หรือสารคัดหลั่งส่งตรวจเพื่อวินิจฉัยยืนยันในห้องปฏิบัติการที่มีผลชัดเจน หากเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจสามารถรักษาให้หายขาดได้ ยกเว้น เชื้อไวรัสอาจจะต้องดูแลสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วยอีก เพราะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) 

ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิต เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส ซึ่งผู้ป่วยต้องรับประทานยาต่อเนื่องจนหมด และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายเป็นปกติ

ยาต้านไวรัส (Antivirus) 

เช่น โรคเริม ผู้ป่วยควรได้รับยาต้านไวรัสร่วมกับการดูแลสุขภาพ และเชื้อจะยังหลงเหลืออยู่ในร่างกาย เมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอ อาจจะกลับมาแสดงอาการอีกครั้ง และมีโอกาสแพร่เชื้อให้กับคู่นอนได้ด้วย ถึงแม้จะมีโอกาสต่ำ ดังนั้น ควรรับประทานยาและรักษาให้หายขาดก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องป้องกันทุกครั้ง

สรุปแล้วโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสม ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และหากไม่มั่นใจว่าหายขาด เชื้อกามโรคบางชนิดสามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคในอนาคตได้