“ซิฟิลิส” โรคร้ายใกล้ตัวที่ควรระวัง

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจเกิดขึ้นกับเราได้ ถ้าไม่ป้องกันซิฟิลิส คือหนึ่งในโรคติดต่อที่มักจะตรวจพบได้บ่อย หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าซิฟิลิสนั้นคืออะไร มีอาการเป็นอย่างไร และที่ควรระวังไว้คือ ถ้าผู้ติดเชื้อไม่ได้สังเกตอาการของตัวเอง ซิฟิลิสก็อาจส่งผลร้ายแรงได้ เพราะฉะนั้น มาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่าครับ

ซิฟิลิสคืออะไร?

โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ “ทรีโพนีมา แพลลิดัม” เมื่อรับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อจะแฝงตัวอยู่ในร่างกาย และถ้าสัมผัสกับบาดแผล รอยขีดข่วนโดยตรงที่ปรากฏบนร่างกายของผู้ติดเชื้อ ก็จะเกิดการส่งต่อเชื้อสู่คนที่ได้สัมผัสเชื้อ

ซิฟิลิสติดต่อผ่านทางไหน?

นอกเหนือจากการสัมผัสกับบาดแผล และรอยขีดข่วนที่มีเชื้อโดยตรงแล้ว เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน (รวมถึงออรัลเซ็กส์) ยังเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดการส่งต่อเชื้อซิฟิลิสได้ เพราะเป็นการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงผ่านเยื่อบุในร่างกาย หรือในคนที่มีบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือส่งต่อเชื้อเพิ่มขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ แม่ที่มีเชื้อซิฟิลิสสามารถส่งต่อเชื้อสู่เด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ได้ และทำให้เด็กที่เกิดมาเป็นโรคซิฟิลิสโดยกำเนิด ที่อาจทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด หรือมีความผิดปกติทางร่างกาย เช่น ระบบประสาทเสื่อม ตาบอด เป็นต้น

ซิฟิลิสอาการเป็นอย่างไร?

อาการของโรคนี้แบ่งออกเป็น 3 ระดับตามระยะเวลาที่ได้รับเชื้อและอาการที่เกิดขึ้น

ระยะแรก หรือระยะแผลริมแข็ง (Chancre) – หลังรับเชื้อมาประมาณ 10 วัน – 3 เดือน
แผลริมแข็งจะขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ช่องคลอด หรือบริเวณปาก อาจขึ้นแค่ที่ใดที่หนึ่งหรือขึ้นพร้อมกันทั้งหมด แต่แผลนี้จะไม่มีอาการเจ็บและจะหายไปหลังจากแสดงอาการประมาณ 3-6 สัปดาห์

ระยะสอง หรือระยะตุ่มนูน – หลังระยะแผลริมแข็งไปแล้วประมาณ 1 – 3 เดือน
ผู้ติดเชื้อจะมีผื่น ตุ่มนูนที่ไม่คันขึ้นทั่วร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอวัยวะเพศ ร่วมกับมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เป็นต้น อาการเหล่านี้จะหายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ก็มีสิทธิ์เป็นซ้ำได้ถ้ายังไม่ได้รับการรักษาก่อนจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายยังมีสิ่งที่เรียกว่า “ระยะแฝง” เป็นระยะคั่นเวลาที่ไม่มีอาการใดชี้ชัดว่าอยู่ในระยะนี้ และสามารถกินเวลาได้เป็นปี ๆ จนสุดท้ายเข้าสู่ระยะสาม

ระยะที่สาม ถ้าไม่ได้รับการรักษาใด ๆ ในช่วงสองระยะแรก ร่างกายที่มีเชื้อซิฟิลิสแฝงอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานจะถูกทำลาย จนเกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายใน เช่น ระบบประสาท หัวใจ สมอง หรือข้อต่อ ทำให้ทำงานได้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ซิฟิลิสรักษาอย่างไร?

ซิฟิลิสเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ และรักษาให้หายขาดได้ด้วย ไม่ต้องกลัวโรคจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ยกเว้นว่าจะไปรับเชื้อซิฟิลิสมาจากที่อื่นอีกครั้งโรคนี้รักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะอย่าง Benzathine Penicillin G ฉีดเข้ากล้ามเนื้อต่อเนื่องกัน ด้วยเวลาและปริมาณยาที่เหมาะสมต่อระยะของอาการที่เกิดขึ้น หรือในคนที่แพ้ยาปฏิชีวนะตัวนี้ก็มียารักษาตัวอื่นที่นำมาใช้ได้ด้วยเช่นกัน

ทุกนาทีมีค่า ไม่ควรละเลยสุขภาพของตัวเอง ถ้ามีความเสี่ยงมา หรือกังวลใจว่าตัวเองอาจได้รับเชื้อซิฟิลิสโดยไม่ได้ตั้งใจ

—————————————-
สามารถจองตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผ่าน https://love2test.org/th/clinic ที่จะช่วยให้การจองตรวจสะดวกและรวดเร็วกว่าที่เคย หรือจะจองตรวจเอชไอวี รับ PrEP PEP ก็ได้เช่นกัน และที่สำคัญ จองตรวจฟรี! ย้ำอีกครั้งว่า ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นคร้าบบ

อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี
เพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Speak Out Thailand
www.speakoutthailand.com/hiv-test


#ซิฟิลิส#Syphilis#โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์#จองตรวจเอชไอวี#love2test#STDtest